แหล่งโบราณคดีเขาโต๊ะพญาวัง
เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เป็นภูเขาหินปูนลูกโดด ทางด้านตะวันออกเป็นเพิงผา มีถ้ำตื้น ๆ ได้พบเครื่องมือหิน ๒ ชิ้น ทางทิศใต้ของถ้ำกลาง
วัตถุชิ้นที่ ๑ เป็นเครื่องมือสะเก็ดหิน ทำจากหินปูนเป็นรูปครึ่งวงกลม ค่อนข้างบาง มีความคมที่ส่วนโค้ง ลักษณะเป็นเครื่องมือสำหรับงานขุด ยาว ๗.๖ เซนติเมตร กว้าง ๕.๖ เซนติเมตร และหนา ๑.๕ เซนติเมตร
วัตถุชิ้นที่ ๒ เป็นสะเก็ดหินปูนรูปหลายเหลี่ยมค่อนข้างบาง มีความคมหลายด้าน มีความยาว ๗.๑ เซนติเมตร กว้าง ๕.๗ เซนติเมตร หนา ๑.๓ เซนติเมตร
แหล่งโบราณคดีเขาโต๊ะนางดำ
เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นภูเขาหินปูน อยู่ในเขตตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า โบราณวัตถุที่พบ เป็นประเภทหิน และประเภทดินเผา
ประเภทหิน เป็นหินลับ ๕ ชิ้น ทำจากหินควอตซ์ และหินปูน ค้อนหิน ๒ ชิ้น ทำจากหินควอตซ์ และหินทราย สะเก็ดหิน เป็นสะเก็ดหินปูน และหินควอตซ์ที่แตกกะเทาะออกมาจากแกนหิน ก้อนหินรูปทรงหลายเหลี่ยม แต่ละด้านเป็นรอยตรงเรียบ
ประเภทดินเผา ได้พบเศษภาชนะดินเผา จำนวน ๑๔ ชิ้น แบ่งตามลักษณะการตกแต่งได้ ๓ แบบ คือ แบบเรียบ เนื้อหยาบ ไม่มีกรวดปน ไส้ในเป็นสีดำ แบบขัดมัน เนื้อหยาบ มีกรวดปน ไส้ในสีดำ แบบลายประทับ เนื้อหยาบ มีกรวดปน ไส้ในสีดำ
แหล่งโบราณคดีเขาขุมทรัพย์
เป็นเทือกเขามีถ้ำตื้น ๆ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขา อยู่ในเขตตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า พบโบราณวัตถุประเภทหิน และประเภทดินเผา
ประเภทหิน เป็นหินลับ ทำด้วยหินทรายมีลักษณะเป็นแท่ง ยาวหนา มีรอยการขัดฝน เป็นร่องลึกลงไปในเนื้อหิน อีกชิ้นหนึ่งเป็นก้อนหินปูนรูปสามเหลี่ยมค่อนข้างหนา หน้าหนึ่งเป็นร่องคล้ายถูกขัดที่ผิวของหิน หินสะเก็ดกรวด เป็นหินกรวดท้องน้ำ มีรอยแตกกระเทาะ แต่ไม่มีลักษณะเป็นเครื่องมือที่ชัดเจน
ประเภทดินเผา พบเศษดินเผา ๖ ชิ้น เนื้อหยาบมีกรวดปน ตกแต่งผิวเรียบ ๑ ชิ้น เคลือบด้วยน้ำดินสีแดง ทั้งด้านนอกและด้านใน ๑ ชิ้น และตกแต่งผิวด้วยลายเชือกทาบด้านนอก ๑ ชิ้น ตกแต่งด้วยลายเชือกทาบ เนื้อหยาบมีกรวดปน ๓ ชิ้น
แหล่งโบราณคดีถ้ำหอย
อยู่ในถ้ำหินปูน ที่บ้านปาล์มพัฒนา กิ่งอำเภอมะนัง พบเศษภาชนะดินเผา จำนวนมาก เป็นเศษภาชนะดินเผา ผิวลายเชือกทาบ ผิวขัดมัน และหม้อสามขา
แหล่งโบราณคดีถ้ำลาชิบ และถ้ำแคล้ว ๑
อยู่ที่เพิงผา ในเขตบ้านปาล์มพัฒนา กิ่งอำเภอมะนัง พบเครื่องมือหินก่อนประวัติศาสตร์
แหล่งโบราณคดีถ้ำหัวลิง
อยู่ในโพรงลึกของถ้ำในภูเขาหินปูน อยู่ในเขตตำบลน้ำผุด อำเภอละงู พบเศษภาชนะดินเผาประดับตกแต่งผิวด้วยลวดลายขูดขีด
แหล่งโบราณคดีถ้ำภูผาเพชร อยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ ภายในมีโพรงลึกเป็นคูหากว้าง ที่คูหาด้านทิศตะวันตกพบเศษภาชนะดินเผา และเปลือกหอย ชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์
แหล่งโบราณคดีถ้ำโพธิยอม เป็นเพิงผาอยู่ที่บ้านหนองราโพธิ ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู พบเศษภาชนะดินเผาเปลือกหอย และกระดูกมนุษย์
ภาษาและวรรณกรรมพื้นบ้าน
ประเภทหิน เป็นหินลับ ทำด้วยหินทรายมีลักษณะเป็นแท่ง ยาวหนา มีรอยการขัดฝน เป็นร่องลึกลงไปในเนื้อหิน อีกชิ้นหนึ่งเป็นก้อนหินปูนรูปสามเหลี่ยมค่อนข้างหนา หน้าหนึ่งเป็นร่องคล้ายถูกขัดที่ผิวของหิน หินสะเก็ดกรวด เป็นหินกรวดท้องน้ำ มีรอยแตกกระเทาะ แต่ไม่มีลักษณะเป็นเครื่องมือที่ชัดเจน
ประเภทดินเผา พบเศษดินเผา ๖ ชิ้น เนื้อหยาบมีกรวดปน ตกแต่งผิวเรียบ ๑ ชิ้น เคลือบด้วยน้ำดินสีแดง ทั้งด้านนอกและด้านใน ๑ ชิ้น และตกแต่งผิวด้วยลายเชือกทาบด้านนอก ๑ ชิ้น ตกแต่งด้วยลายเชือกทาบ เนื้อหยาบมีกรวดปน ๓ ชิ้น
แหล่งโบราณคดีถ้ำหอย
อยู่ในถ้ำหินปูน ที่บ้านปาล์มพัฒนา กิ่งอำเภอมะนัง พบเศษภาชนะดินเผา จำนวนมาก เป็นเศษภาชนะดินเผา ผิวลายเชือกทาบ ผิวขัดมัน และหม้อสามขา
แหล่งโบราณคดีถ้ำลาชิบ และถ้ำแคล้ว ๑
อยู่ที่เพิงผา ในเขตบ้านปาล์มพัฒนา กิ่งอำเภอมะนัง พบเครื่องมือหินก่อนประวัติศาสตร์
แหล่งโบราณคดีถ้ำหัวลิง
อยู่ในโพรงลึกของถ้ำในภูเขาหินปูน อยู่ในเขตตำบลน้ำผุด อำเภอละงู พบเศษภาชนะดินเผาประดับตกแต่งผิวด้วยลวดลายขูดขีด
แหล่งโบราณคดีถ้ำภูผาเพชร อยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ ภายในมีโพรงลึกเป็นคูหากว้าง ที่คูหาด้านทิศตะวันตกพบเศษภาชนะดินเผา และเปลือกหอย ชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์
แหล่งโบราณคดีถ้ำโพธิยอม เป็นเพิงผาอยู่ที่บ้านหนองราโพธิ ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู พบเศษภาชนะดินเผาเปลือกหอย และกระดูกมนุษย์
ภาษาและวรรณกรรมพื้นบ้าน
ชาวเมืองสตูลมีภาษาและวรรณกรรมพื้นบ้านที่มีลักษณะแตกต่าง จากจังหวัดอื่น ๆ ใน ๓ เรื่องคือภาษาถิ่น เพลงกล่อมเด็ก ตำนาน และนิทานพื้นบ้าน
ภาษาถิ่น มีอยู่สองลักษณะคือ ภาษาถิ่นใต้และภาษาถิ่นมลายู ภาษาถิ่นใต้มีลักษณะคล้านสำเนียงของชาวพัทลุง และสงขลาเนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกัน ส่วนภาษาถิ่นมลายูนั้น เนื่องจากเจ้าเมืองในอดีตของเมืองสตูลสืบเชื้อสายมาจากไทรบุรี ซึ่งใช้ภาษามลายู ชาวสตูลจึงใช้ภาษาถิ่นใต้ปนกับ ภาษามลายู ซึ่งไม่ปรากฏในจังหวัดใกล้เคียงอื่น ๆ
ภาษาถิ่น มีอยู่สองลักษณะคือ ภาษาถิ่นใต้และภาษาถิ่นมลายู ภาษาถิ่นใต้มีลักษณะคล้านสำเนียงของชาวพัทลุง และสงขลาเนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกัน ส่วนภาษาถิ่นมลายูนั้น เนื่องจากเจ้าเมืองในอดีตของเมืองสตูลสืบเชื้อสายมาจากไทรบุรี ซึ่งใช้ภาษามลายู ชาวสตูลจึงใช้ภาษาถิ่นใต้ปนกับ ภาษามลายู ซึ่งไม่ปรากฏในจังหวัดใกล้เคียงอื่น ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น